พิธีตักบาตรพระ 1,000 รูป ณ วัดห้วยตองสัก จ.เชียงใหม่
พุทธศาสนิกชน ได้พร้อมใจกันมาสั่งสมบุญร่วมกันในพิธีตักบาตรพระ 1,000 รูปถวายเป็นพุทธบูชาและน้อมรักษาวัฒนธรรมชาวพุทธ ณ วัดห้วยตองสัก จังหวัดเชียงใหม่
ศูนย์ส่งเสริมศีลธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดงานตักบาตรพระ 1,000 รูปถวายเป็นพุทธบูชาและน้อมรักษาวัฒนธรรมชาวพุทธ ณ วัดห้วยตองสัก อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับความร่วมมือจากคณะสงฆ์อำเภอจอมทอง หน่วยงานราชการต่างๆมาร่วมจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระสุวรรณเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นประธานสงฆ์ โดยเมื่อคณะสงฆ์ทั้ง 1,000 รูปมายังศูนย์กลางพิธี พร้อมทั้งสาธุชนก็ได้ร่วมกันสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จากนั้นแพทย์หญิงเสาวนีย์ วิบูลย์สันติ ผู้แทนคณะกรรมการการจัดงานได้กล่าวต้อนรับท่านแขกผู้มีเกียรติและสาธุชนทุกท่านที่มาร่วมงานบุญตักบาตรในครั้งนี้ ก่อนที่นายณัฐกร ภัทรวรานนท์ นายอำเภอจอมทอง จะได้เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและถวายพานสักการะแด่ท่านประธานสงฆ์ พร้อมกันนี้สาธุชนทุกท่านก็ได้กล่าวคำอาราธนาศีล 5 ส่วนนายสุริยา เชียงธีระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา ได้กล่าวรายงานในการจัดงานตักบาตรพระ 1000 รูปในครั้งนี้ จากนั้นท่านนายอำเภอได้กล่าวเปิดงานและลั่นฆ้องชัย พร้อมกันนี้ก่อนที่ทุกท่านจะได้สร้างบุญใหญ่ ก็ได้นั่งสมาธิเจริญภาวนาเพื่อกลั่น กาย วาจา ใจ ให้สะอาดผ่องใสเพื่อจะได้รองรับบุญใหญ่ในพิธีตักบาตรพระพันรูปในครั้งนี้ ก่อนที่จะได้ประกอบพิธีถวายกองบุญต่างๆ ดังต่อไปนี้ พิธีถวายสังฆทาน, พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม, พิธีถวายค่ายานพาหนะ, พิธีถวายคิลานเภสัช, และพิธีกล่าวคำอธิษฐานจิต ในการนี้คณะเจ้าภาพก็ได้น้อมถวายไทยธรรมแด่ท่านประธานสงฆ์และคณะสงฆ์
ซึ่งท่านประธานสงฆ์ ก็ได้กล่าวอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้มาร่วมบุญตักบาตรในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ชาวพุทธไม่เคยทอดทิ้งในการมาสั่งสมบุญในบวรพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการทำบุญกับคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ และเพื่อให้พระพุทธศาสนาได้ดำรงมั่นคงต่อไป และขอให้เป็นอริยะประเพณีเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธเช่นนี้ต่อไป ซึ่งการจัดตักบาตรในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา บูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ รักษาวัฒนธรรมชาวพุทธ สืบทอดอายุพระพุทธศาสนาและยังช่วยเหลือวัดในเขตพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษาในวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 นี้
